เมื่อ Software Tester พบสถานการณ์ที่มีแรงกดดันสูง และจำเป็นต้องทดสอบอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงคุณภาพของการทดสอบ แนะนำให้ใช้ Automation Test มีวิธีการดังต่อไปนี้
1. ระบุความต้องการหลัก : เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจข้อกำหนดที่สำคัญที่สุดของระบบ เพื่อกำหนดกรอบการทดสอบที่จะครอบคลุมฟังก์ชันหลัก
2. ออกแบบกรอบการทดสอบอัตโนมัติ : สร้างโครงสร้างพื้นฐานของกรอบการทดสอบอัตโนมัติ โดยเลือกใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น Selenium, Cypress หรือ Robot Framework
3. ออกแบบ Test Cases ที่เน้นความเสี่ยง : จัดลำดับความสำคัญของ Test Cases โดยเน้นที่ฟังก์ชันหลักและจุดเสี่ยง เพื่อให้แน่ใจว่าได้ครอบคลุมส่วนที่สำคัญที่สุด
4. สร้าง Data Generation Tool : พัฒนาเครื่องมือสำหรับสร้างข้อมูลทดสอบแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย
5. ออกแบบการรายงานผลที่มีประสิทธิภาพ : สร้างรายงานผลการทดสอบที่สื่อสารได้ชัดเจน รวมถึงการแจ้งเตือนในกรณีที่พบข้อผิดพลาด
6. ปรับปรุงและดูแลระบบอย่างต่อเนื่อง : ทบทวนและปรับปรุงกรอบการทดสอบอัตโนมัติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของระบบ
โดยการสร้างกรอบการทดสอบอัตโนมัติที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้สามารถจัดการกับการทดสอบในสภาวะที่มีแรงกดดันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบจะสามารถส่งมอบได้ตามความต้องการของลูกค้า
กรณีไม่สามารถใช้ Automation Test ได้ หากเป็นการทดสอบแบบ Manual ภายใต้สภาวะแรงกดดัน จะมีวิธีการดังนี้:
1. วางแผนการทดสอบอย่างรัดกุม
– กำหนดขอบเขตการทดสอบที่ชัดเจน โดยเน้นการทดสอบฟังก์ชันหลักและจุดเสี่ยง
– จัดลำดับความสำคัญของ Test Cases เพื่อให้แน่ใจว่าได้ทดสอบสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
2. สร้างทีมทดสอบที่มีประสบการณ์
– ใช้ผู้ทดสอบที่มีทักษะและความชำนาญในการทดสอบระบบ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
– จัดให้มีการฝึกอบรมและสร้างความเข้าใจในระบบให้กับทีมทดสอบ
3. ใช้เทคนิคและวิธีการทดสอบที่มีประสิทธิภาพ
– เลือกใช้เทคนิคการทดสอบที่เหมาะสม เช่น Exploratory Testing, Risk-Based Testing เพื่อให้ครอบคลุมจุดเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว
– ใช้เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น Test Management Tools, Bug Tracking Tools
4. สื่อสารและประสานงานอย่างใกล้ชิด
– มีการสื่อสารที่ชัดเจนและสม่ำเสมอกับทีมงานพัฒนาและผู้เกี่ยวข้อง
– ทำรายงานความคืบหน้าและสรุปปัญหาที่พบอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถจัดการได้ทันเวลา
5. ปรับแผนและแก้ไขปัญหาอย่างยืดหยุ่น
– ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและปรับแผนการทดสอบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
– แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยประสานงานกับทีมพัฒนาและผู้ที่เกี่ยวข้อง
ด้วยการใช้วิธีการเหล่านี้ในการทดสอบแบบ Manual ภายใต้สภาวะที่มีแรงกดดัน จะช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งมอบระบบที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้

